การเขียนบทความ
บทความคือ
ความเรียงที่เขียนขึ้นโดยมีหลักฐานข้อเท็จจริง และในเนื้อหานั้นผู้เขียน ได้แทรกข้อเสนอแนะเชิงวิจารณ์หรือสร้างสรรค์เอาไว้ด้วย
บทความเป็นงานเขียนที่ปรากฏคู่กับหนังสือพิมพ์
เพราะบทความเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์เป็นส่วนใหญ่เพิ่งนิยมกันในหมู่นักอ่านและ ผู้เขียนในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนี้เอง
แต่ก็แพร่หลายอย่างรวดเร็ว รูปแบบการเขียนบทความคล้ายกับเรียงความมากและถึงแม้เนื้อหาสาระของบทความส่วนใหญ่จะได้จากข่าวสด
แต่วิธีเขียนบทความก็ต่างจากวิธีเขียนข่าวเช่นเดียวกัน
ลักษณะเฉพาะของบทความ
1. ต้องเป็นเรื่องที่ผู้อ่านส่วนมากกำลังสนใจอยู่ในขณะนั้น
อาจเป็นปัญหาที่คนกำลังอยากรู้ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร หรือมีผลอย่างไร
หรือเป็นเรื่องที่เข้ายุคเข้าสมัย
2. ต้องมีแก่นสาร
มีสาระอ่านแล้วได้ความรู้หรือความคิดเพิ่มเติมมิใช่เรื่องเลื่อนลอยไร้สาระ
3. ต้องมีข้อทรรศนะ ข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะของผู้เขียนแทรกอยู่ด้วย
4. มีวิธีเชิญชวนให้อ่าน อ่านแล้วท้าทายความคิด
และสนุกเพลิดเพลินจากความคิดในเชิงถกเถียงโต้แย้งนั้น
5. เนื้อหาสาระ
และสำนวนภาษาเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีการศึกษาอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะ ผู้อ่านที่มีการศึกษาน้อย
นิยมอ่านข่าวสดมากกว่าบทความ
บทความสมัยนี้ค่อนข้างจะมีลักษณะผสมผสานกันทั้งเชิงสาระและปกิณกะ
ดังที่ปรากฏอยู่ตามหนังสือพิมพ์รายวัน และรายสัปดาห์
ถ้าจะแบ่งตามเนื้อเรื่องของบทความแล้วยังแยกออกไปได้อีกหลายประเภท เช่น
1. บทความแสดงความคิดเห็น เป็นบทความที่ผู้เขียนหยิบยกเอาปัญหาในสังคมนั้น ขึ้นมาเขียน มีทั้งปัญหาส่วนรวมและปัญหาส่วนบุคคล ปัญหาส่วนรวมก็เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ
2. บทความประเภทสัมภาษณ์ เป็นบทความที่แสดงความคิดของบุคคลเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
ผู้เขียนบทความควรรู้จักเลือกบุคคลที่จะสัมภาษณ์ เช่น เป็นคนเด่น มีชื่อเสียง
มีความเชี่ยวชาญ หรือมีความเข้าใจอย่างดีในเรื่องที่เราจะเขียน
3. บทความกึ่งชีวประวัติ มีลักษณะคล้ายกับบทความประเภทสัมภาษณ์ต่างกันในแง่ที่บทความประเภทสัมภาษณ์ต้องการแสดงข้อคิดเห็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
4. บทความประเภทให้ความรู้ เป็นบทความที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
หรืออธิบายวิธีทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในการเขียนควรเลือกเรื่องที่ดึงดูดความสนใจ
5. บทความประเภทให้แง่คิด โน้มน้าวใจ
หรือกระตุ้นให้กระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้เขียนอาจเขียนอย่างตรงไปตรงมา
หรือเขียนในเชิงอุปมาอุปมัยก็ได้ การเขียนเชิงอุปมาอุปมัยนั้นจะพูดถึงสิ่งอื่น
ผูกเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันโดยตลอด
ข้อความทั้งเรื่องจะแทนความคิดที่ต้องการให้ผู้อ่านทราบ
6. บทความประเภทรายงานผลการท่องเที่ยว ถ้าเป็นการไปเที่ยวสถานที่แปลกใหม่ ไม่เคยมีใครไปมาก่อน
จะเร้าความสนใจของผู้อ่านดีขึ้น เนื้อเรื่องนอกจากจะกล่าวถึงเรื่องราว
การเดินทาง ลักษณะภูมิประเทศ และความสวยงามของสถานที่นั้น ๆ
นอกจากนี้การเขียนงานทางด้านวารสารศาสตร์ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอีกหลากหลายรูปแบบมากมาย
อาทิเช่น นิตยสาร เรื่องสั้น หนังสือพิมพ์ ใบปลิว ใบความรู้
วารสารสำหรับการเรียนรู้ รวมถึงหนังสือต่างๆ อีกมากมาย
ทั้งหมดล้วนเป็นงานทางด้านการเขียน การคิดวิเคราะห์ เพื่อสร้างงานวารสาร
สร้างผลงานด้านการเขียน เพื่อให้เกิดเป็นอาชีพ
และเสริมสร้างจินตนาการด้านความคิดและการเขียนให้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
แหล่งข้อมูล
ประเทือง สุขเเสวง โดย Gotoknow
คุณชาลินี (วิชาการ.คอม) โดย na-vigato.com
คุณชาลินี (วิชาการ.คอม) โดย na-vigato.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น